โครงการ “ช้างศิลป์ แผ่นดินเชียงราย”

นำศิลปะ... สู่ชุมชน

ช้าง เป็นสัตว์ที่อยู่ในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย และอยู่คู่กับประเทศไทยในอดีตมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว

เราจะเห็นได้ว่า ในอดีต เมื่อมีศึกสงคราม ช้างก็ได้ออกศึกสงครามร่วมกับคนไทยมาโดยตลอด

ในยุคล่าอาณานิคม ช้างก็ได้มีส่วนในการทำอุตสาหกรรมป่าไม้ โดยใช้ในการลากซุง และหากปราศจากช้างแล้ว อุตสาหกรรมในการทำไม้คงเป็นไปด้วยความลำบากเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ เรายังมีช้างเผือก ซึ่งถือว่าเป็นของมีค่า เป็นของคู่บ้านคู่เมืองอีกด้วย โดยเฉพาะคนล้านนาแล้ว ช้างยังใช้เป็น "พาหนะ" ในการเดินทางอีกด้วย

เมืองเชียงราย เป็นเมืองที่อุดมด้วยศิลปินเป็นจำนวนมาก สมกับคำกล่าวที่ว่า เมืองเชียงราย เป็น “เมืองแห่งศิลปิน” (ข้อมูลจาก “ขัวศิลปะ” - ปัจจุบันเมืองเชียงรายมีศิลปินมากกว่า 264 ท่าน ที่ทำงานด้านศิลปะอย่างเป็นอาชีพ)

เชียงรายเป็นเมืองเพียงไม่กี่เมืองในประเทศไทย ที่มีศิลปินแห่งชาติถึง 3 ท่าน

ได้แก่ ดำรง วงศ์อุปราช, ถวัลย์ ดัชนี และ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

กรีนวิงและแองเจิลเวย์ ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองเชียงราย และสนับสนุนให้สาธารณชน ได้ทราบว่า เมืองเชียงรายนั้นเป็น “เมืองศิลปิน และมีศิลปินมากมาย” นอกจากนั้นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ กรีนวิงและ

แองเจิลเวย์ ต้องการนำ “ศิลปะ” ไปสู่ชุมชนห่างไกล ให้ชุมชนท้องถิ่นได้มีโอกาสสัมผัสกับงานศิลป์อันประณีต

ด้วยความหวังว่า งานศิลปะจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ แก่ผู้พบเห็นได้มากมาย

โครงการ “ช้างศิลป์ แผ่นดินเชียงราย” จึงเกิดขึ้น โดยที่ช้างศิลป์ 1 เชือก ก็คือ

ตัวแทนศิลปิน 1 ท่าน ของเมืองเชียงรายนั่นเอง ที่บรรจงสร้างงานศิลปะลงบนตัวช้างแต่ละเชือก

โครงการ “ช้างศิลป์ แผ่นดินเชียงราย” ยังเป็นโครงการที่ช่วยอนุรักษ์ช้างไทยให้อนุชนรุ่นหลัง ได้ทราบถึงคุณค่าของช้างไทยและช่วยกันอนุรักษ์ช้างไทย ให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองไทย ตลอดไป

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ช้างจะไม่ได้ใช้เป็นพาหนะหรือใช้ลากซุง ดังเช่นในอดีต

แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 นี้ ช้างได้ทำหน้าที่เป็น "ผู้ถ่ายทอดงานศิลปะ" ของเหล่าศิลปินชาวเชียงราย

จำนวน 90 ท่าน ให้แก่ประชาชนชาวไทยและผู้ที่สนใจในงานศิลปะ ได้ชื่นชมงานศิลป์ผ่านโครงการ

“ช้างศิลป์ แผ่นดินเชียงราย”

ด้วยความรักเมืองเจียงฮาย

นายแพทย์ กอบชัย จิตรสกุล
13 มีนาคม 2015